มาไหว้พระเสริมความเป็นสิริมงคลที่วัดแก้วพิจิตรและพระพุทธรูปที่ต้นศรีมหาโพธิ์
วันนี้เราจะพาไปไหว้พระเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลที่จังหวัดปราจีนบุรีกันค่ะซึ่งไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนักเราสามารถขับรถไปกลับภายในวันเดียวได้และที่จะพาไปเที่ยวในวันนี้นั้นจะพาไปเที่ยววัดแก้วพิจิตรซึ่งมีความงดงามเกี่ยวกับเรื่องของการก่อสร้างบริเวณภายในวัดซึ่งจะเป็นที่สะดุดตาอย่างมากและไม่เหมือนใครโดยวัดแห่งนี้มีการสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5
และอีกหนึ่งสถานที่ที่เราจะไปไหว้พระพุทธรูปกันนั้นก็คือต้นพอขนาดใหญ่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดปราจีนบุรีกันเลยทีเดียวซึ่งที่นี่เรียกว่าต้นศรีมหาโพธิ์ค่ะซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีอายุเก่าแก่เกินสองพันปีได้แล้วนะคะ อย่ารอช้าเลยค่ะเราเริ่มสตาร์ทกันพี่ต้นศรีมหาโพธิ์กันก่อนดีกว่าซึ่งที่นี่หากใครที่มาเที่ยวจังหวัดปราจีนบุรีแล้ว
แล้วก็ถ้าหากไม่ได้มาไหว้พระพุทธรูปขอพรที่ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์แห่งนี้เรียกได้ว่ายังมาไม่ถึงจังหวัดปราจีนบุรีกันเลยทีเดียวสำหรับต้นโพธิ์แห่งนี้จะอยู่ในเขตวัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิผึ้งต้นโพธิ์หนูที่เราจะไปไหว้กันนี้เป็นต้นโพธิ์ที่มีขนาดใหญ่มากๆโดยมีความสูงถึง 30 เมตรด้วยกันค่ะและอย่างที่บอกว่าเป็นต้นโพธิ์ที่มีอายุเก่าแก่เกิน 2000 ปีแล้วดังนั้นที่นี่ประชาชนจึงให้ความเคารพนับถือและมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมากโดยเชื่อกันว่าต้นโพธิ์ต้นนี้เป็นการนำกิ่งของต้นโพธิ์ต้นเดียวกัน
กับที่เจ้าชายสิทธัตถะได้ไปนั่งอยู่ใต้ต้นโพธิ์เพื่อทำการบำเพ็ญธรรมนั่งสมาธิจนสามารถตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าได้ซึ่งมีการนำกิ่งของต้นโพธิ์ต้นนี้มาจากประเทศอินเดียแล้วนำมาปลูกเอาไว้จนมีขนาดใหญ่โตแผลกิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาภายในบริเวณวัดและที่สำคัญในทุกๆปีชาวเมืองจังหวัดปราจีนบุรีจะมีการมากราบไหว้ขอพรต้นพระศรีมหาโพธินี้
เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตหลังจากที่เราได้มีการมาเคารพกราบไหว้ต้นไม้มงคลของจังหวัดปราจีนบุรีกันแล้วเราก็ไปเที่ยวกันต่อที่วัดแก้วพิจิตรซึ่งที่นี่มีความงดงามเป็นอย่างมากโดยมีการเล่าประวัติความเป็นมาว่าที่วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเศรษฐีคนหนึ่งที่จังหวัดปราจีนบุรีโดยมีการสร้างขึ้นมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลของอุโบสถจะมีการสร้างเป็นศิลปะผสมกันระหว่างของไทยของจีนยุโรปและยังมีเขมรอีกด้วยค่ะ
เพราะฉะนั้นเป็นศิลปะที่ผสมผสานกันหลายประเทศรวมกันเลยทีเดียวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมความงดงามของที่นี่นั้นก็คืออุโบสถซึ่งภายในนั้นจะเป็นสถานที่แสดงศิลปะฝาผนังที่มีความงดงามเป็นอย่างมากซึ่งจะมีการวาดภาพเกี่ยวกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของพระพุทธศาสนาโดยว่ากันว่าผู้ที่มาวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังนี้
เป็นช่างหลวงโดยส่วนใหญ่นั้นมีการวาดขึ้นมาในช่วงรัชกาลที่ 6 ซึ่งนอกจากจะวาดตามผนังแล้วยังมีการวาดภาพลงบนผืนผ้าอีกด้วยและที่เห็นแปลกตาก็คือบริเวณกำแพงของวัดโดยรอบนั้นจะมีการทาด้วยสีชมพูซึ่งปกติแล้วเราจะไม่ค่อยเห็นวัดส่วนใหญ่ทาสีชมพูกันมากนักแต่ที่นี่นอกจากจะมีศิลปะวาดภาพที่สวยงามแล้วยังมีความงดงามของโบสถ์ที่เราสามารถหาชมได้ยากจากที่อื่นอีกด้วย
ได้รับการสนับสนุนโดย bk8 login