ไปเที่ยวหินสามวาฬกัน

วันนี้เราจะมาพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดบึงกาฬซึ่งจังหวัดนี้ถือว่าเป็นจังหวัดที่เพิ่งขึ้นมาใหม่ในประเทศไทยด้วยจังหวัดบึงกาฬนั้นอยู่ในเขตพื้นที่ของภาคอีสานสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ของบึงกาฬนั้นจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติซึ่งเราจะเห็นทั้งภูเขาและต้นไม้ในปริมาณมากและแน่นอนว่าบึงกาฬเป็นจังหวัดใหม่ดังนั้นสถานที่ท่องเที่ยวจึงไม่ค่อยมีใครรู้จักที่เที่ยวที่บึงกาฬกันมากนัก

ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำให้คุณรู้จักบึงกาฬกันมากขึ้นหรือว่าถ้าใครมีเวลาว่างอยากจะลองมาท่องเที่ยวที่เมืองกาญดูสำหรับสถานที่แรกที่เราจะแนะนำไปเที่ยวที่จังหวัดบึงกาฬนั้นก็คือหินสามวาฬซึ่งที่นี่จะอยู่ในเขตพื้นที่ของป่าสงวนแห่งชาติโดยลักษณะของหิน 3 วันนั้นจะเป็นหินสูงและมีความยาวโดยก้อนหินนั้นจะเป็นก้อนหินโล่งขนาดใหญ่

และที่สำคัญก้อนหินจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ก้อนใหญ่ๆด้วยกันมีลักษณะของความโค้งมนซึ่งถ้าหากเราขึ้นเฮลิคอปเตอร์แล้วมองลงมาจะเห็นว่าเห็นทั้ง 3 ก้อนนั้นจะมีลักษณะคล้ายกับหัวของปลาวาฬและเมื่อดูทั้ง 3 ก็รวมกันก็จะเหมือนกับว่าเป็นครอบครัวของปลาวาฬกำลังว่ายน้ำเล่นอยู่กันกลางทุ่งหญ้าที่เขียวขจีโดยนักวิทยาศาสตร์ได้มีการตรวจสอบหินดังกล่าวแล้วพบว่าหินนี้มีอายุมากกว่า 75 ล้านปีมาแล้ว

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแบบนี้ถือว่าประเทศไทยมีที่เดียวเท่านั้นซึ่งถ้านักท่องเที่ยวอยากจะเห็นความงดงามของธรรมชาติและทัศนียภาพที่สวยงามของแม่น้ำโขงรวมถึงฝั่งประเทศลาวแล้วก็ขึ้นมายืนอยู่บนก้อนหิน 3 วันนี้คุณจะสามารถมองเห็นความสวยงามได้ไกลสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียวโดยคุณจะสามารถมองเห็นป่าภูวัวหรือแม้แต่คุณจะเห็นหาดทรายของแม่น้ำโขงและคุณยังสามารถมองข้ามไปถึงฝั่งประเทศลาว

ที่มีความสวยงามอีกด้วยและยังเห็นภูเขาต่างๆมากมายเช่นภูเขาเมืองปากกะทิงรวมถึงเห็นแก่งสะดอกและห้วยบางบาทซึ่งสถานที่ที่พูดมาต่างๆนี้ล้วนแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ของจังหวัดภาคอีสานทั้งสิ้นสำหรับการเดินทางมาเที่ยวที่หัวหิน 3 วันนี้ค่อนข้างจะเดินทางลำบากนิดนึงเพราะว่าจะต้องเดินผ่านเข้าไปในป่าและเดินไต่ไปตามก้อนหิน

แต่ถ้าเกิดว่าคุณได้มาอยู่บนสูงสุดของหินสามวาฬแล้วก็คงจะหายเหนื่อยทันทีเนื่องจากว่าที่นี่จะอากาศดีมากๆลมเย็นสบายเพราะอยู่ในพื้นที่สูงที่สำคัญถ้าหากใครไปเที่ยวที่นี่ในช่วงหน้าฝนแล้วก็ควรจะใส่รองเท้าที่มีดอกยางจะดีที่สุดเพราะจะได้เดินชมความงดงามของธรรมชาติ

โดยไม่ต้องกลัวว่าจะลื่นและแน่นอนว่าถ้าหากใครมีกล้องส่องทางไกลแนะนำให้พกติดตัวไปด้วยเพราะคุณจะได้สามารถมองเห็นภาพความสวยงามในระยะไกลได้

 

สนับสนุนโดย  betbb

ไปเที่ยว พระธาตุแช่แห้ง จังหวัดน่าน กัน

วันนี้พวกเราจะมาขับรถไปไหว้พระซึ่งอยู่ในวัดที่มีอายุดั้งเดิมมากยิ่งกว่า 600 ปีมาแล้วด้วยวัดที่นี้ตั้งอยู่ตรงที่ตำบลม่วงตึ๊ดเลยอยู่ภายในเขตพื้นที่อำเภอภูเพียงแค่จังหวัดน่านนั่นเองสำหรับวัดที่นี้มีการสร้างขึ้นมาตั้งแต่ตอนปีพ.ศ. 1902 กระทั่งมาถึงช่วงปีพุทธศักราช 1969

โดยวัดที่นี้จะอยู่ห่างจากวัดภูมินทร์ซึ่งเป็นวัดที่ขึ้นชื่อลือนามอีกวัดหนึ่งในจังหวัดน่านเหมือนกันโดยจะห่างกันราวราวประมาณ แค่เพียง 3. 6 กิโลเมตร เพียงเท่านั้นวัดที่นี้มีชื่อว่าวัดพระธาตุแช่แห้งซึ่งมีการสร้างมายุคที่พระเจ้าพระยาการเมืองมีความต้องการต้องการจะให้มีการสร้างวัดพระธาตุแช่แห้งมีขึ้นมา

เพราะว่าต้องการจะเอาไว้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุสำหรับที่วัดที่นี้มีความสวยงามแปลกตาพอได้รับอิทธิพลการสร้างมาจากจังหวัดต่างๆดังเช่นว่าเจดีย์ ซึ่งอยู่ด้านในรอบๆวัดนั้นก็ได้รับอิทธิพลแบบการสร้างมาจากวัดพระธาตุหริภุญชัยของจังหวัดลำพูนรวมทั้งยังมีจุดฯลฯที่มีการสร้างเอาไว้อย่างงดงามสำหรับเจดีย์ที่มีการสร้างอยู่ในวัดพระธาตุแช่แห้งนั้นเป็นเจดีย์ที่ถูกทาด้วยสีทองคำเรียกว่าการบุด้วยทองคำจังโกองค์พระธาตุจะเป็นเจดีย์ที่มีลักษณะคล้ายกับระฆังแล้วก็ประชาชนพากันเชื่อว่า

สำหรับพระบรมธาตุที่อยู่ในเจดีย์ที่นี้เป็นพระบรมธาตุประจำของผู้ที่เกิดในปีเถาะ ฉะนั้นถ้าหากไม่ว่าใครก็ตามที่มีพระธาตุประจำวันเกิดเป็นปีเถาะแล้วรวมทั้งเหมาะสมอย่างยิ่งเป็นอย่างมากที่จะมาไหว้ขอพรที่วัดพระธาตุแช่แห้งจังหวัดน่านนี่เองซึ่งจะสามารถสร้างความเป็นมงคลให้แก่ตัวของผู้ที่กำเนิดปีเถาะเองรวมทั้งยังขอพรเผื่อแผ่ให้กับคนภายในครอบครัวได้อีกด้วย

การเดินทางมาท่องเที่ยวที่วัดพระธาตุแช่แห้งนั้นพวกเราสามารถขับขี่รถมาแล้วเข้ามาจอดในรอบๆวัดได้เลย ตรงนี้จะเป็นวัดที่ออกจะสงบนักเดินทางจะไม่ค่อยมากมายนักพวกเราสามารถเดินดูความสวยสดงดงามของพื้นที่ด้านในรอบๆวัดรวมทั้งด้วยกันทำบุญทำทานตามจุดต่างๆที่พระสงฆ์ได้มีการทำตู้รับบริจาคเอาไว้ซึ่งเงินที่ได้นั้นพระสงฆ์ก็จะนำไปบูรณะซ่อมบำรุงวัดรวมทั้งนำไปเป็นค่าใช้สอยทั้งยังค่าใช้จ่ายสำหรับน้ำและไฟฟ้าให้กับทางวัดทำให้ผู้ที่มาทำบุญสุนทานนั้นได้รับอานิสงส์จากการทำบุญในคราวนี้ด้วย

ขณะนี้จะเป็นช่วงๆที่ผู้คนจำนวนมากนั้นชอบออกมาทำบุญทำทานไหว้พระกันเพราะเหตุว่าเป็นช่วงที่หลายท่านอาจจะมีการเกิดความกังวลใจจากเหตุการณ์เศรษฐกิจของประเทศด้วยเหตุนี้การเที่ยวแบบทำบุญสุนทานไหว้พระก็เลยเป็นรูปแบบการเที่ยวอีกแบบ

 

สนับสนุนโดย  betbb